บ้านป่าก๋ำ บันทึกหน้าที่ 7

ในป่าลึก

=> ความเป็นอารยธรรมของชนเผ่า ความแน่วแน่ในการรักษาซึ่งความเป็นตัวตนของพวกเขา

=> ทุกเวลาที่เปลี่ยนไป ทุนนิยมเริ่มกล้ำกลาย

=> การล่มสลายของอารยธรรม

      สิ่งหนึ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้คือความเป็นไปของสังคม จารีต ประเพณี และวัฒนธรรม ของสังคมนั้นๆ ซึ่งเป็นสิ่งบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของคนท้องถิ่น สิ่งเหล่านี้จะถูกหล่อหลอมให้กลายเป็นความเชื่อของคนชุมชน ทำให้คนในชุมชนนั้นเกิดความรักในถิ่นฐานบ้านเกิด เกิดความสามัคคีกันในชุมชน พร้อมที่จะปกป้องอณาจักรของตนเอง

      ณ บ้านป่าก๋ำ  อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน คือหนึ่งในชุมชนที่ยังคงความเป็นตัวตนของตนเองสูง แม้ว่าสังคมภายนอกจะมีการพัฒนาไปแล้วก็ตาม ความเป็นป่าก๋ำก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ไม่สนต่อความเป็นไปของสังคมภายนอกว่าไปถึงไหนแล้วก็ตาม ทุกย่างก้าวที่นี่ยังคงเดินต่อไปอย่างช้าๆ ตามวิถีชีวิตที่มีมาตั้งแต่โบราณกาล

      ประเพณี วัฒนธรรม ที่นี่ยังคงเหมือนเดิมทำต่อเนื่องไปทุกๆปี ประเพณีกินดอกแดง ( เหล้าอุ๊ ) ก็ยังสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน

     สิ่งหนึ่งที่ได้ยินมาจากคนในชุมชน เสียงสะท้อนเล็กๆ เรื่องทางเข้าหมู่บ้านซึ่งตอนนี้เป็นทางลูกรัง เส้นเล็กๆ เข้ามาในหมู่บ้าน ตัดผ่านป่าเขาลำเนาไพร เป็นระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินประมาณ 1 ชั่วโมง โดยใช้รถยนต์ 4W เท่านั้นถึงจะขึ้นไปได้ ระหว่างทางจะต้องขึ้นเขาลงห้วยด้วยทางที่ลาดชัน
       การเดินทางครั้งนั้นฟังครั้งแรกก็รู้สึกแอบหัวเราะในใจว่า จริงหรือ 7 กิโลเมตร 1 ชั่วโมง แต่เอาเข้าจริงๆ เกือบไม่รอดเหมือนกัน ทางค่อนข้างยากมาก ไม่อยากนึกถึงในช่วงฤดูฝน คงลำบากมากจริงๆ
       กลับมาเรื่องทางของชาวบ้าน  จริงๆแล้วความต้องการของชาวบ้านในบ้านป่าก๋ำนั้นไม่ได้มีความต้องการถนนมาในหมู่บ้านเขาเลย มันเป็นความต้องการของคนข้างนอกทั้งนั้นที่จะหยิบยืนอะไรให้เขา โดยไม่ได้ดูความต้องการของเขาเลย แต่ด้วยความที่เขาเป็นอย่างนั้นก็คงหลีกเสียไม่ได้ที่จะรับมัน

       ความเชื่อในหมู่บ้านป่าก๋ำ ที่นี่ไม่มีศาสนา มีแต่หมอฮีต ( หมอผี ) การงานทุกอย่างที่จะกระทำจัดขึ้นจะต้องผ่านร่างทรงก่อนถึงจะจัดทำได้ต้องขออนุญาตผีก่อนทุกครั้ง  เมื่อครั้งสมัยก่อน ครูเดชา กาบคำ ได้มาบรรจุเป็นครู กศน. ในที่แห่งนี้ สิ่งของที่ไม่เคยมีในหมู่บ้านมาก่อนหรือสิ่งแปลกปลอมจะเข้ามาในหมู่บ้านได้นั้นต้องผ่านการยอมรับจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือผีก่อนทุกครั้ง  ครั้งหนึ่งมีคนมาบริจาคสังกะสีเพื่อนำมาสร้างศูนย์ กศน. ทางหมอฮีต (หมอผี) จะสั่งให้เก็บไว้ที่ป่าหน้าหมู่บ้านก่อนเป็นเวลา 3 วัน เพื่อให้เจ้าที่เจ้าทางหรือผีที่คุ้มครองอยู่ที่นั่นอนุญาตก่อนถึงจะเอาเข้ามาในหมู่บ้านได้
       คนส่วนใหญ่มองว่าสิ่งเหล่านี้คือการกระทำของคนที่ด้อยการศึกษา งมงายในสิ่งที่มองไม่เห็น เชื่อในสิ่งลึกลับ  แต่ถ้าเรามองอีกมิติหนึ่ง สิ่งที่เขาทำนั่นมันคือการให้เกียรติซึ่งธรรมชาติ ให้เกียรติทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ ทุกสิ่งในสถานที่นี้ถูกให้ความสำคัญเท่ากัน ต้นไม้ทุกต้น สัตว์ทุกตัว ล้วนสำคัญเท่าๆกัน มันลึกซึ้งมากกว่าความเชื่อที่เขามี นี่หรือคือสิ่งที่มองว่างมงาย
      
         โรงเรียนถูกสร้างขึ้นมาเมื่อประมาณ 6 ปี ที่ผ่านมา โดย ผอ.ปกรณ์  โรงเรียนบ้านสว้า ได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาในสถานที่นี้
          การจัดการศึกษาในสถานที่นี้เป็นเรื่องอยู่พอสมควร ด้วยบริบทต่างๆในชุมชน อัตราการแข่งขันไม่มี เส้นความสุขอยู่ในระดับที่ต่ำ ( สามารถหาความสุขได้โดยไม่มีอะไร กินแบบง่ายๆ อยู่แบบง่ายๆ ) ในชีวิตประจำวันไม่ได้มีอะไรที่จำเป็น  โทรศัพท์ไม่มีความจำเป็น ตื่นเช้ามาไปทำไร่แล้วกลับมานอน ชีวิตจะดำเนินไปอย่างนี้ทุกวัน  การศึกษาจึงไม่ค่อยมีความจำเป็นเท่าไหร่ในความคิดของเขา
          เมื่อก่อนทางโรงเรียนพยายามที่จะเอานักเรียนลงไปเรียนในโรงเรียนซึ่งมีที่พักให้ แต่ความพยายามนี้ก็ล้มเหลว ผอ.ปกรณ์ จึงริเริ่มที่จะสร้างห้องเรียนสาขาที่บ้านป่าก๋ำเมื่อ 6 ปีที่ผ่าน

ห้องครัว (ประยุกต์ของครูในโรงเรียน)
        

พี่อ้วน
        พี่อ้วน เป็นหนึ่งคนทำสารคดีของช่อง PSI เขาได้ติดตามชนเผ่านี้มานาน ตั้งแต่สมัยสงครามคอมมิวนิสต์ ชุมชนนี้อยู่ในโซนสีแดงและอยู่เส้นคาบเกี่ยว ชุมชนนี้เมื่อก่อนเปรียบเสมือนไข่แดงของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ซึ่งอุทยานหวงมากไม่ยอมให้หน่วยงานใดเข้ามาจัดการพื้นที่นี้ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง        พี่อ้วน ให้ข้อมูลว่า ชุมชนนี้อาจจะเป็นชุมชนสุดท้ายของแถบเอเซียที่สืบเชื้อสายมาจากเผ่าอารยันโบราณที่ยังหลงเหลืออยู่ในแถบนี้
        จากข้อมูลชุมชนนี้คือชนเผ่าลั๊วะ แต่ก็เป็นชนเผ่าลั๊วะที่ไม่เหมือนกับชนเผ่าลั๊วะที่อื่น ทั้งประเพณี วัฒนธรรม ที่แปลกแยกและเป็นเอกลักษณ์เป็นของตนเองอย่างโดดเด่น

=> เราทุกคนจะคอยดูว่าชุมชนแห่งนี้จะยืนหยัดอยู่ได้อีกนานเท่าใด หรือว่าถึงเวลาแล้วที่ชุมชนแห่งนี้จะล่มสลายทางวัฒนธรรม และยอมแพ้ต่อสังคมโลกาภิวัตน์ สังคมทุนนิยม หรือไม่
ลึกเพียงใด ที่ไหนก็คือประเทศไทย


ความคิดเห็น