ในช่วงเวลาในการอบรมที่ หมู่บ้านพลัม ข้อปฏิบัติในการอบรมนั้น การเป็นอยู่ดีมาก กินอาหารมังสวิรัติ บรรยากาศร่มรื่นน่าอยู่มาก
เตาหุงอาหาร |
บรรยากาศในสถานปฏิบัติธรรม หมู่บ้านพลัม |
ในช่วงการปรับตัว จากการเข้าไปครั้งแรกสิ่งที่สังเกตุเห็นอย่างหนึ่งคือภาษาในการติดต่อสื่อสาร ส่วนใหญ่จะใช้ภาษาอังกฤษในการติดต่อสื่อสาร แต่เมื่อมีการบรรยายธรรมนั้นก็มีพระอาจารย์และผู้ดำเนินรายการเป็นผู้แปลภาษาให้อีกครั้งหนึ่งเพื่อการสื่อสารที่ตรงกัน การอบรม ส่วนใหญ่นั้นจะเน้นการทำสมาธิ การฝึกสติ การรู้ตัว การใช้ระฆังสติ การภาวนาด้วยบทเพลง
การภาวนาด้วยบทเพลง |
พระอาจารย์ มาบรรยายในเรื่องการอยู่กับตนเอง ( อยู่กับปัจจุบัน )
ในการบรรยายวันนี้พระวิทยากรได้พูดถึงการรู้ตัว การอยู่กับตนเอง การดูแลตนเอง (การอยู่กับปัจจุบัน)
- อย่ายึดติดกับตัวเขา
- ให้คิดว่าเขาเป็นคนใหม่ ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอและตลอดเวลา
- เข้าใจความรู้สึกของเรา อารมณ์ของเรา
การที่ครูจะเป็นแรงบันดาลใจให้นักเรียนอยากมาเรียนนั้นครูจะต้องมีการเจริญภาวนา ฝึกสติ ครูมีความผ่อนคลาย ไม่แข็งไม่เกร็ง ความสุขในชั้นเรียนก็จะเกิดขึ้น การใช้ระฆังสติก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งเพื่อที่จะเตือนสติของครูให้กลับมารู้ตัว
การมองความรู้สึกของเราหรือสติของเรามีองค์ประกอบ ดังนี้
1. Contact สัมผัส 5 ( รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส )
2. Attention ความใส่ใจ ในเหตุการณ์ตอนนั้น
3. Feeling ความรู้สึก
4. Perceptions การรับรู้
5. Volition แรงผลักดัน , แรงขับเคลื่อน , แรงบันดาลใจ
6. Vitality พลังชีวิต
*** อย่างไรก็ตามองค์ประกอบทั้งมวลจะเริ่มจาก Contact ( สัมผัส ทั้ง 5 )
การรับรู้ มีอยู่ 3 แบบ คือ
1. Thinks in-themselves.
เมื่อเราเห็นอะไรอาจจะไม่มองสิ่งนั้นเลย เช่น เรามองดอกไม้ เราอาจจะไม่เห็นดอกไม้ แต่มองอย่างอื่นแทน คือ อาจจะคิดถึงชื่อของดอกไม้ เป็นต้น ( ต้องฝึกให้รู้ถึงเหตุการณ์ปัจจุบัน เช่น อาบน้ำก็ให้รู้ว่ากำลังอาบน้ำ )
2. World of representation.
มองถึงความเป็นจริง
3. World of mere-image.
โลกแห่งภาพมายา หรือ จากความฝัน ( การเพ้อฝัน )
( ต้องฝึกเปิดกว้างสำหรับการรับรู้ , การฟัง , การอ่าน )
Four Steps of Beginning Anew. ( 4 ขั้นตอน ของการเริ่มต้นใหม่ )
1. Watering flower.
การรดน้ำต้นไม้ ของคนๆนั้นที่เราเกลียดอยู่ ( เป็นการดูแลสิ่งที่เราไม่ชอบของคนๆนั้น มองให้เห็นปัญหานั้นและรับรู้มัน ) อย่ายึดแต่สิ่งที่เป็นแง่ลบ ต้องมองหลายๆด้าน มองหาข้อดีของแต่ละคน การนำมาใช้กับนักเรียน เช่น การเขียนโน้ตให้กับนักเรียน , Empower , ข้อแก้ไข เป็นต้น
2. Expressing our regrets.
การมองตนเอง เราไม่ได้ดีพร้อมทุกอย่าง
Learning more about our skillfulness. การขอโทษทันที ไม่ต้องรอ (ถึงแม้เป็นการกระทำที่ไม่รู้ตัว) จะทำได้หลายๆทาง เช่น Email , Facebook , Face time เป็นต้น ใช้เวลาในการขอโทษแค่ประมาณ 1 นาที
ที่สำคัญคือต้องลด อัตตา ของตนเอง และทำให้ฝั่งตรงข้ามเปิดใจ เพื่อการสื่อสารจะเกิดขึ้นได้
3. Expressing our hurt in a peaceful , skillful and humble way.
( ทุกคนมีปัญหา เราไม่ได้เฟอร์เฟกทุกคน ) เราสามารถที่จะสื่อสารออกมาได้ เช่น การสื่อสารออกมาทางภาษากาย , การแสดงออกถึงความเจ็บปวดหรือความทุกข์ให้คนอื่นรู้อย่างชาญฉลาด ( เขียนใส่กระดาษ , เขียนใส่กระดาน ) เป็นต้น
3.1 I suffer and I want you to know it.
3.2 I am doing my best.
3.3 Please help me.
4. Deep , Compassionate listening.
การฟังอย่างเมตตา กรุณา ฟังเพื่อช่วยให้ผู้นั้นมีความทุกข์นั้นลดลง ซึ่งก็สามารถทำได้ เช่น ลดการโต้ตอบทันที , พยายามให้อีกฝ่ายได้พูดออกมา , ใช้วาจาแห่งรัก , ตัวเราต้องมีความสงบ เมตตา กรุณาอยู่ในตัวก่อน เป็นต้น
การดูแลอารมณ์รุนแรง ( ความโกรธ , ความกลัว , ความสิ้นหวัง ) Take care our strong emotions.
Work shop การดูแลอารมณ์รุนแรง |
อารมณ์ความรุนแรง
=> sadness (ความโศกเศร้า), depression (ความหดหู่ ความสะเทือนใจ) , craving (ความอยาก ความกระหาย) , loneliness (ความเหงา ความโดเดี่ยว) ฯลฯ
การลดทอนความโกรธ
=> กำหนดรู้ที่ท้องเพื่อสร้างพลังงานบางอย่างมาทดแทนพลังความโกรธ
การใช้ระฆังสติ
=> เตือนตนเอง
1. Recognizing a strong emotion
ตระหนัก รู้ถึงอารมณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น อาจจะมีวิธีคลายด้วยสิ่งต่างๆ เช่น mindful breathing ( กำหนดลมหายใจ , ทำสมาธิ ) , bird singing ( เสียงนก ) เป็นต้น
"การที่เรารู้สึกถึงอารมณ์โกรธมันไม่ได้ผิดอะไร แต่การที่เรามีการกระทำโต้ตอบค่อนข้างที่จะไม่ดีมากนัก"
The way to look at our strong emotion. ( วิธีมองอารมณ์ความรุนแรงของเรา )
- พลังงานจะต่ำ หดหู่
- เป็นระดับของการตระหนักรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
- ยิ่งเราหนี อารมณ์ความรุนแรงก็จะยิ่งตามเรามามากเท่านั้น ต้องใช้สติกำหนดรู้ให้ทันอารมณ์ ณ ขณะนั้น
2. Handle a strong emotion - calm it down.
การดูแลอารมณ์รุนแรงที่เกิดขึ้น - สงบอารมณ์รุนแรงลง
- Go away from area. ออกมาจากสถานการณ์นั้น
- Practice การปฏิบัติ
mindful walking ( เดินสมาธิ )
mindful breathing ( กำหนดลมหายใจ )
- Be aware at our body. ตระหนักรู้ในตัวเอง
- Be aware at our reaction. ตระหนักรู้ถึงปฏิกิริยาของตนเอง
3. Look deeply to understand the roots at our strong.
มองอย่างลึกซึ้งเพื่อเข้าใจถึงสาเหตุของอารมณ์รุนแรง
ออกกำลังกาย |
อาหารมังสวิรัติ |
3 หนุ่ม 3 มุม |
บทเพลงภาวนา
Breathing in , Breathing out ลมหายใจ
lyrics by Thich Nhat Hanh
music by Betsy Rose
C Am C Am
Breathing in , breathing out . . . ( 2x ) หายใจเข้า หายใจออก ( 2 ครั้ง )
Dm G Dm G
I am blooming as a flower. เปรียบดอกไม้ ที่แย้มบาน
Dm G7 C Dm G7 C
I am fresh as the dew. สดชื่นเหมื่อน น้ำค้างพร่างพราย
Em Am Em Am
I am solid as a mountain. หนักแน่นเหมือน ภูผากว้างใหญ่
Dm G A G/B Dm G A G/B
I am firm as the Earth. มั่นคงคล้าย ดังผืนดิน
Am G/B C Am G/B C
I am free. ฉันปล่อยวาง
C Am C Am
Breathing in , breathing out . . . ( 2x ) หายใจเข้า หายใจออก ( 2 ครั้ง )
Dm G Dm G
I am water reflecting ดั่งผืนน้ำ สะท้อนเงา
Dm G7 C Dm G7 C
what is real, what is true. ความถูกต้องและความจริง
Em Am Em Am
And I feel there is space เปรียบเสมือนความว่างเปล่า
Dm G Am G/B Dm G Am G/B
deep inside of me. อยู่ในใจของฉันเอง
C F C C F C
I am free, I am free, I am free. ฉันสงบ ฉันสบาย ฉันปล่อยวาง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น