ณ เวลาหนึ่งผมได้ฉุกคิดถึงความเกี่ยวโยง เชื่อมโยงกัน หรือความเหมือนของมนุษย์ ( คน ) และ พืชต่างๆ ที่มีความต้องการที่เหมือนๆ กัน ในเรื่องของธาตุอาหาร
เราอาจเคยได้ยินเรื่องการทำเกษตรอินทรีย์ เดาคร่าวๆ คือการทำการเกษตรแบบไม่ใช้สารเคมี บางรายอาจรวมถึงปุ๋ยเคมีด้วยนะครับ ว่าต้องไม่ใช้ปุ๋ยนี้เด็ดขาดต้องใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ถึงจะเรียกว่าเกษตรอินทรีย์
เราลองมาทำความเข้าใจใหม่นะครับกับคำว่าเกษรตอินทรีย์ในมุมมองแบบวิทยาศาสตร์ นิดๆๆ กันดูนะครับว่าจะเป็นอย่างไร เรามาวิเคราะห์กันว่า N P K ที่อยู่ในปุ๋ยเคมีนั้นจริงๆแล้วมันคืออะไร มันเกี่ยวกับตัวคนเราอย่างไร
มาดู ตามตัวอย่างธาตุหลักในปุ๋ยเคมี แต่ละชนิดกันเลยนะครับ
ฟอสฟอรัส (phosphorus) สัญลักษณ์ P เลขอะตอม 15 เป็นธาตุอโลหะ
มาดูว่า "พืช" เขาต้องการฟอสฟอรัสไปทำอะไร
ฟอสฟอรัสเป็นธาตุอาหารที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของรากพืช โดยธาตุฟอสฟอรัสจะช่วยทำให้รากของพืชแข็งแรงและแผ่กระจายได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งจะทำให้ลำต้นแข็งแรงไปด้วย
โดยปกติธาตุฟอสฟอรัสนี้ก็มีมากอยู่ในดินอยู่แล้ว แต่เป็นธาตุที่ไม่เคลื่อนที่ในดินและละลายน้ำได้ยาก ผลที่ตามมา คือ พืชนำไปใช้ได้ยากเช่นกัน
การใช้ปุ๋ยคอก นอกจากจะได้ธาตุไนโตรเจนแล้วก็ยังได้ธาตุฟอสฟอรัสอีกด้วย
ธาตุฟอสฟอรัสในดินที่จะเป็นประโยชน์ต่อพืชได้ จะต้องอยู่ในรูปของอนุมูลของ สารประกอบที่เรียกว่า ฟอสเฟตไอออน (H2PO4- และ HPO4-) ซึ่งจะต้องละลายอยู่ในน้ำในดิน ซึ่งธาตุฟอสฟอรัสส่วนใหญ่ที่อยู่ในดินก็ละลายน้ำยากอยู่แล้ว ฉะนั้นเราก็ต้องพึ่งการทำปฏิกิริยาขึ้นมาเอง ( เคมี ) เพื่อให้พืชได้รับธาตุอาหารได้ง่ายขึ้น
การใส่ปุ๋ยฟอสฟอรัส มักจะใส่ไปที่รากแบบตรง ฟอสเฟตนี้ถึงแม้จะอยู่ใกล้ชิดกับรากก็จะไม่เป็นอันตรายแก่รากแต่อย่างใด ปุ๋ยคอกจะช่วยป้องกันไม่ให้ปุ๋ยฟอสเฟตทำปฏิกิริยากับแร่ธาตุในดินและสูญเสีย ความเป็นประโยชน์ต่อพืชเร็วจนเกินไป
พืชเมื่อขาดฟอสฟอรัสจะมีต้นแคระแกร็นใบมีสีเขียวคล้ำ ใบล่าง ๆ จะมีสีม่วงตามบริเวณขอบใบ รากของพืชชะงักการเจริญเติบโต พืชไม่ออกดอกและผล รากพืชจะไม่เจริญ มีรากฝอยน้อย ต้นเตี้ย ใบและต้นมีสีเข้มและบางครั้งมีสีม่วงหรือแดงเกิดขึ้น พืชแก่ช้ากว่าปกติ เช่น การผลิดอก ออกผลช้า มีการแตกกอน้อย การติดเมล็ดน้อย หรือบางครั้งไม่ติดเมล็ด
พืชที่ได้รับฟอสฟอรัสอย่างเพียงพอจะมีระบบรากที่แข็งแรงแพร่กระจายอยู่ในดิน อย่างกว้างขวาง สามารถดึงดูดน้ำและธาตุอาหารได้ดี การออกดอกออกผลจะเร็วขึ้น ระบบรากให้แข็งแรง ช่วยในการแตกกอ และช่วยให้ลำต้นแข็งแรงไม่ล้มง่าย ช่วยให้พืชดูดใช้ธาตุไนโตรเจนและโมลิบดีนัมได้ดีขึ้น (โมลิบดีนัมเป็นธาตุอาหารที่สำคัญของพืชและพบในเอ็นไซม์แซนทินออกซิเดส (xanthine oxidase) )
มาดูว่า "มนุษย์" ต้องการฟอสฟอรัสไปเพื่ออะไร
มีความเกี่ยวข้องกันกับกระบวนการทางเคมีของร่างกายในเกือบทุกส่วน มีความสำคัญต่อการทำงานที่เป็นปกติสม่ำเสมอของหัวใจ และสำคัญอย่างมากต่อการทำงานของไต ต่อโครงสร้างของกระดูกและฟัน ร่างกายจำเป็นต้องใช้ฟอสฟอรัสในกระบวนการส่งต่อสัญญาณประสาท
วิตามินดีและแคลเซียม มีส่วนสำคัญต่อการทำงานของฟอสฟอรัส ถ้าหากร่างกายขาดฟอสฟอรัส วิตามินบี 3 จะไม่สามารถดูดซึมได้ และโรคจากการขาดฟอสฟอรัส ได้แก่ โรคเหงือกอักเสบและโรคกระดูกอ่อนในเด็ก โดยศัตรูของฟอสฟอรัส ได้แก่ การรับประทานธาตุเหล็ก แมกนีเซียม อะลูมิเนียม มากเกินไป อาจทำให้ฟอสฟอรัสด้อยประสิทธิภาพลง แล้วฟอสฟอรัสยังช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดของโรคข้ออักเสบอีกด้วย
สรุปง่ายๆ คือทั้งคนและพืชเมื่อขาดธาตุฟอสฟอรัส ระบบพื้นฐานของร่างกายก็ไม่แข็งแรง ส่งผลต่อการเจริญเติบโต
.............................................................................................................................................................
ไนโตรเจน ( Nitrogen ) สัญลักษณ์ N และเลขอะตอม 7 เป็นอโลหะที่มีสถานะเป็นแก๊สที่มีอยู่ทั่วไป โดยปกติไม่มีสี กลิ่น หรือรส
มาดูว่า "พืช" ต้องการไนโตรเจนเพื่ออะไร
พืช
เมื่อ
แต่
พืช
ดัง
มาดูว่า "มนุษย์" ต้องการไนโตรเจนเพื่ออะไร
ไนโตรเจนมีสมบัติเป็นก๊าซเฉื่อย มีประโยชน์ที่สำคัญ คือ ช่วยเจือจางความเข้มข้นของออกซิเจนในอากาศทำให้ออกซิเจนมีความเข้มข้นพอเหมาะสำหรับสิ่งมีชีวิตที่จะนำไปใช้ได้ โดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย เพราะการหายใจเอาออซิเจนที่มีความเข้มข้นสูงเข้าไปจะทำให้เกิดการสันดาป (เผาไหม้) ภายในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตเป็นไปอย่างรุนแรง และก่อให้เกิดอันตรายจนอาจถึงแก่ชีวิตได้
สรุปง่ายๆ ไนโตรเจนก็ยังมีความจำเป็นต่อพืชและมนุษย์อยู่ ซึ่งต้องอยู่ในเกณฑ์ที่พอเหมาะไม่มากไปและน้อยไป
..............................................................................................................................................................
โพแทสเซียม (Potassium) สัญลักษณ์ K มีเลขอะตอม 19 ธาตุเคมีในกลุ่มโลหะ
มาดูว่า "พืช" ต้องการโพแทสเซียมมาทำอะไร
ธาตุ
ธาตุ
ดัง
พืช
พืช
ฉะนั้นอยู่ดีจะเอาธาตุโพแทสเซียมที่อยู่ในดินมาใช้ประโยชน์เลยอาจทำได้ช้า จึงจำเป็นต้องอาศัยกระบวนการทางเคมีเข้าไปช่วยเพื่อให้พืชได้รับแร่ธาตุได้ง่ายได้
มาดูว่า "มนุษย์" ต้องการโพแทสเซียมเพื่ออะไร
ประโยชน์ของโพแทสเซียม
1. ช่วยควบคุมสมดุลของน้ำในร่างกายและช่วยให้การทำงานของหัวใจเต้นเป็นปกติ
2. ช่วยลดความดันโลหิต
3. ช่วยรักษาภูมิแพ้
4. ช่วยให้มีสติปัญญา จิตใจร่าเริงแจ่มใส โดยมีออกซิเจนไปเลี้ยงที่สมอง
5. ช่วยกำจัดของเสียต่างๆในร่างกาย
นอกจากนี้โพแทสเซียม ( เกลือแร่ชนิดหนึ่ง ) มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการยืดหดตัวของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหัวใจ รักษาสมดุลของน้ำ กรด-ด่าง ในร่างกาย ควบคุมความดันโลหิต อีกด้วย
สรุปง่ายๆ โพแทสเซียมก็มีความสำคัญทางด้านการรักษาสมดุลของทั้งคนและพืช ถ้าขาดแล้วก็ทำให้ระบบรวนไปเลย
............................................................................................................................................................
เห็นไหมหล่ะครับว่า ทั้งพืชและคน ก็ยังมีความต้องการธาตุอาหารที่เหมือนๆกัน ซึ่งจะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้เช่นกัน
เราอาจจะสงสัยว่าแล้วอย่างนี้ การใช้ปุ๋ยเคมีลงไปในพืชผลทางการเกษตรของเราแล้วก็ไม่ใช่การทำเกษตรอินทรีย์แล้วสิ.....
ตอบง่ายๆ ครับ ถ้าอย่างไหนมากเกินไปก็ไม่ดี น้อยเกินไปก็ไม่ดี ไม่ให้ก็ขาดการเจริญเติบโต คนก็เหมือนกับพืช ถ้าเราไม่รับประทานอาหารที่ไม่มีธาตุเหล่านี้ก็จะไม่เจริญเติบโตอีกเช่นกัน
นี่แค่ยกตัวอย่างแค่ธาตุอาหารมาแค่ 3 ตัวอย่าง ซึ่งจริงๆแล้วทั้งคนและพืชยังต้องการธาตุเหล่านี้อีกเป็นจำนวนมากหลายธาตุ ทั้งที่ร่างกายสามารถผลิตได้เอง และที่ร่างกายเราไม่สามารถผลิตได้แต่จำเป็นต้องมี
การใช้ปุ๋ยเคมี ก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ แต่เราต้องใช้อย่างพอดี ไม่มากไป และควรจะใช้กับปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยคอก ถึงจะทำให้ปุ๋ยเคมี มีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้นและยาวนานมากขึ้น ทั้งยังเป็นการลดต้นทุนให้กับเกษตรกรด้วย
การกระหนำใช้แต่ปุ๋ยเคมีอย่างเดียว ก็เกิดผลเสียมากมายตามมา ทำให้ดินเป็นกรด ดินเปรี้ยว ดินแข็ง กว่าจะปรับสภาพดินได้ต้องใช้เวลาอีกนานและที่สำคัญ เปลืองเงินอีก
การกระหนำใช้แต่ปุ๋ยอินทรีย์อย่างเดียว ก็ทำให้เกิดผลช้าอีก เพราะธาตุอาหารบางอย่างต้องการตัวทำปฏิกิริยา เพื่อพืชจะได้นำไปใช้ประโยชน์ได้ บางคนก็อ่อนใจ ท้อไปก็มี
ทางที่ดีการใช้ปุ๋ยในการเกษตรควร ใช้อย่างพอเหมาะ ไม่หนักไปอย่างใดอย่างหนึ่ง พยายามทดลองด้วยตนเองว่าใช้ประมาณไหนถึงจะเหมาะกับพื้นที่ และพืชของตนเองที่ปลูก ต้องการ ถึงจะได้ผลผลิตที่ดีและไม่ขาดทุน
เดี๋ยวผมลงเชื่อมโยงการเจริญเติบโตของคนและพืช เมื่อเทียบกับการศึกษาบ้างนะครับ บล็อคนี้แค่นี้ก่อนนะครับ
ขอบคุณแหล่งข้อมูล
http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet6/envi2/subsoil/potas.htm
https://web.ku.ac.th/schoolnet/snet6/envi2/subsoil/nitro.htm
https://en.wikipedia.org/wiki/Potassium
https://en.wikipedia.org/wiki/Nitrogen
https://en.wikipedia.org/wiki/Phosphorus
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น