ผมมีความตั้งใจจะเขียนเรื่องนี้มานานมากแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาส และที่สำคัญลืม ครับท่าน
ใน เมื่อก่อนผมเคยไปทำงานหลายที่ ที่เกี่ยวกับงานราชการและทางการเมืองด้วยนิดหน่อย
ผมมีความสงสัยและเป็นความสงสัยที่ไม่กล้าที่จะถามใครที่เกี่ยวข้อง เพราะผมรู้คำตอบที่จะได้อยู่แล้วว่ามันคืออะไร คำตอบที่ได้มันง่ายมากเพราะเป็นสิ่งที่ถูกสืบทอดมานาน จนไม่สามารถที่จะยับยั้งได้เลยแม้แต่น้อย
ผมเคยได้ยินเรื่องการ ทุจริตเชิงนโยบาย ครั้งแรกเมื่อประมาณ 4 - 5 ปี ก่อน ในยุคนั้นเป็นยุคที่นักการเมืองกำลังเฟื่องฟู และมีอิทธิพลมากอยู่พอสมควร งบประมาณต่างๆ จะผ่านทางนักการเมืองเป็นส่วนใหญ่และเป็นงบประมาณที่ค่อนข้างเยอะพอสมควร เพราะฉะนั้น หน่วยงานขนาดเล็กจะพยายามเข้าหานักการเมืองเหล่านี้ เพื่อที่จะขอแบ่งงบประมาณให้กับหน่วยงานของตนเอง
ผมเคยเห็นบ่อยมากในช่วงนั้น และก็เห็นหน่วยงานเหล่านี้ก็ได้งบประมาณจริงๆ แต่การได้มาซึ่งงบประมาณเหล่านั้นก็ย่อมมีส่วนแบ่งที่ลงตัวอยู่ก่อนแล้ว
การได้มาของงบประมาณแต่ละครั้ง จะถูกแบ่งงบประมาณออกส่วนหนึ่งให้กับต้นทาง และก็ยังถูกแบ่งอีกให้กับปลายทาง จนกว่าจะเสร็จจริงอาจจะเหลือนิดๆหน่อยๆ แต่ก็ยังดีที่หน่วยงานเล็กๆ เหล่านั้นยังได้งบประมาณส่วนนี้อยู่ เพราะถ้าไม่วิ่งงบประมาณพวกนี้หน่วยงานคงอยู่ยาก ถ้ารอแต่งบประมาณต้นสังกัดอย่างเดียวคงไม่ไหว
ทำไม ? คนทั่วไปอยากเป็นนักการเมือง .......
- อยากเข้ามาพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง
- อยากเข้ามาสร้างอำนาจทางการเมืองให้ตนเองและพวกพ้อง
- อยากเข้ามาสร้างรายได้ให้กับตนเอง
- อยากเข้ามาเพื่ออำนวย ธุรกิจของตนเองและพวกพ้อง
- อยากเข้ามาเพื่อใฝ่หาพวกพ้องทางธุรกิจ
และมีเหตุผลอีกมากมายที่ยังไม่ได้พูดถึง
ไม่ว่าเหตุผลใดก่อตาม ถ้าคนเข้ามาเป็นนักการเมืองแล้วตั้งใจที่จะพัฒนาบ้านเมืองจริงๆ ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากทั้งบ้านเมืองและประเทศ
ทุกวันนี้ ที่ผมเห็นนักการเมืองที่ดี มีน้อยมาก ประเทศเราควรพัฒนาในเรื่องนี้ด้วยครับ เอาจริงๆ นะทุกวันนี้ผมเห็นนักการเมือง ไม่ได้ศรัทธาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เมื่อไหร่ที่ผมเห็นนักการเมืองผมจะคิดแล้วคิดอีก แล้วผมจะพยายามไม่เข้าไปใกล้
บางครั้งผมก็ตั้งคำถามว่า ช่วงใกล้เลือกตั้ง ทำไมเห็นคนพวกนี้บ่อยมากๆ ไม่ว่าจะงานศพ งานบวช งานอำเภอ ฯลฯ จิปาถะ จะเห็นตลอดทั้งๆที่ไปก็ไม่ได้ไปทำอะไรนะ
แล้ว ช่วงหลังเลือกตั้ง หายไปไหน ???????
ชาวบ้าน มีความคิดอย่างหนึ่งที่ถูกบ่มเพาะมานานหลังจากที่ประชาธิปไตยเฟื่องฟู ถูกผู้นำใช้วาทะ ทางการเมืองชักนำ จนชาวถูกครอบงำทางความคิด อย่างรุนแรง จนเกิดการแบ่งแยกฝ่ายอย่างชัดเจนในปัจจุบัน
ทุกวันนี้ ชาวบ้านจะถูกโจมตีทางความคิด ผ่านทางสื่อทั้งใต้ดินและบนดิน และความคิดนั้นยากมากที่จะถูกสั่นคลอนจนสลายความคิดนั้นได้
ผม ได้ยินทุกครั้งเมื่อมีการพูดถึงเรื่องการเมือง ถ้าพูดถึงเรื่องการเมืองก็จะพูดถึงเรื่องการคอรัปชั่น ชาวบ้าน ส่วนใหญ่จะเห็นว่า นักการเมืองคอรัปชั่นนิดๆหน่อยๆ ไม่เห็นเป็นไร อย่างน้อยบ้านเราก็ได้รับผลประโยชน์
สุดท้าย ก็หนีไม่พ้นการคอรัปชั่น แต่ที่น่ากลัว คือ ชาวบ้านเห็นเป็นเรื่องธรรมดา
การจะกำจัดกลไกการคอรัปชั่น คงต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ ที่จะทำให้ชาวบ้านได้รับรู้ และเปิดวิสัยทัศน์ ให้ชาวบ้าน สลายความเชื่อผิดๆ นั้น ให้ลดน้อยลงไป
ใน เมื่อก่อนผมเคยไปทำงานหลายที่ ที่เกี่ยวกับงานราชการและทางการเมืองด้วยนิดหน่อย
ผมมีความสงสัยและเป็นความสงสัยที่ไม่กล้าที่จะถามใครที่เกี่ยวข้อง เพราะผมรู้คำตอบที่จะได้อยู่แล้วว่ามันคืออะไร คำตอบที่ได้มันง่ายมากเพราะเป็นสิ่งที่ถูกสืบทอดมานาน จนไม่สามารถที่จะยับยั้งได้เลยแม้แต่น้อย
ผมเคยได้ยินเรื่องการ ทุจริตเชิงนโยบาย ครั้งแรกเมื่อประมาณ 4 - 5 ปี ก่อน ในยุคนั้นเป็นยุคที่นักการเมืองกำลังเฟื่องฟู และมีอิทธิพลมากอยู่พอสมควร งบประมาณต่างๆ จะผ่านทางนักการเมืองเป็นส่วนใหญ่และเป็นงบประมาณที่ค่อนข้างเยอะพอสมควร เพราะฉะนั้น หน่วยงานขนาดเล็กจะพยายามเข้าหานักการเมืองเหล่านี้ เพื่อที่จะขอแบ่งงบประมาณให้กับหน่วยงานของตนเอง
ผมเคยเห็นบ่อยมากในช่วงนั้น และก็เห็นหน่วยงานเหล่านี้ก็ได้งบประมาณจริงๆ แต่การได้มาซึ่งงบประมาณเหล่านั้นก็ย่อมมีส่วนแบ่งที่ลงตัวอยู่ก่อนแล้ว
การได้มาของงบประมาณแต่ละครั้ง จะถูกแบ่งงบประมาณออกส่วนหนึ่งให้กับต้นทาง และก็ยังถูกแบ่งอีกให้กับปลายทาง จนกว่าจะเสร็จจริงอาจจะเหลือนิดๆหน่อยๆ แต่ก็ยังดีที่หน่วยงานเล็กๆ เหล่านั้นยังได้งบประมาณส่วนนี้อยู่ เพราะถ้าไม่วิ่งงบประมาณพวกนี้หน่วยงานคงอยู่ยาก ถ้ารอแต่งบประมาณต้นสังกัดอย่างเดียวคงไม่ไหว
ทำไม ? คนทั่วไปอยากเป็นนักการเมือง .......
- อยากเข้ามาพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง
- อยากเข้ามาสร้างอำนาจทางการเมืองให้ตนเองและพวกพ้อง
- อยากเข้ามาสร้างรายได้ให้กับตนเอง
- อยากเข้ามาเพื่ออำนวย ธุรกิจของตนเองและพวกพ้อง
- อยากเข้ามาเพื่อใฝ่หาพวกพ้องทางธุรกิจ
และมีเหตุผลอีกมากมายที่ยังไม่ได้พูดถึง
ไม่ว่าเหตุผลใดก่อตาม ถ้าคนเข้ามาเป็นนักการเมืองแล้วตั้งใจที่จะพัฒนาบ้านเมืองจริงๆ ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากทั้งบ้านเมืองและประเทศ
ทุกวันนี้ ที่ผมเห็นนักการเมืองที่ดี มีน้อยมาก ประเทศเราควรพัฒนาในเรื่องนี้ด้วยครับ เอาจริงๆ นะทุกวันนี้ผมเห็นนักการเมือง ไม่ได้ศรัทธาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เมื่อไหร่ที่ผมเห็นนักการเมืองผมจะคิดแล้วคิดอีก แล้วผมจะพยายามไม่เข้าไปใกล้
บางครั้งผมก็ตั้งคำถามว่า ช่วงใกล้เลือกตั้ง ทำไมเห็นคนพวกนี้บ่อยมากๆ ไม่ว่าจะงานศพ งานบวช งานอำเภอ ฯลฯ จิปาถะ จะเห็นตลอดทั้งๆที่ไปก็ไม่ได้ไปทำอะไรนะ
แล้ว ช่วงหลังเลือกตั้ง หายไปไหน ???????
ชาวบ้าน มีความคิดอย่างหนึ่งที่ถูกบ่มเพาะมานานหลังจากที่ประชาธิปไตยเฟื่องฟู ถูกผู้นำใช้วาทะ ทางการเมืองชักนำ จนชาวถูกครอบงำทางความคิด อย่างรุนแรง จนเกิดการแบ่งแยกฝ่ายอย่างชัดเจนในปัจจุบัน
ทุกวันนี้ ชาวบ้านจะถูกโจมตีทางความคิด ผ่านทางสื่อทั้งใต้ดินและบนดิน และความคิดนั้นยากมากที่จะถูกสั่นคลอนจนสลายความคิดนั้นได้
ผม ได้ยินทุกครั้งเมื่อมีการพูดถึงเรื่องการเมือง ถ้าพูดถึงเรื่องการเมืองก็จะพูดถึงเรื่องการคอรัปชั่น ชาวบ้าน ส่วนใหญ่จะเห็นว่า นักการเมืองคอรัปชั่นนิดๆหน่อยๆ ไม่เห็นเป็นไร อย่างน้อยบ้านเราก็ได้รับผลประโยชน์
สุดท้าย ก็หนีไม่พ้นการคอรัปชั่น แต่ที่น่ากลัว คือ ชาวบ้านเห็นเป็นเรื่องธรรมดา
การจะกำจัดกลไกการคอรัปชั่น คงต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ ที่จะทำให้ชาวบ้านได้รับรู้ และเปิดวิสัยทัศน์ ให้ชาวบ้าน สลายความเชื่อผิดๆ นั้น ให้ลดน้อยลงไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น