สุร๊า..........สุรา เซียนสุรา มาแต่โบราณ ถูกขนานนาม นักรบขี้เมา
หลายๆ คน มองสุรา ในทางไม่ดีมานาน เพราะพฤติกรรมหลังการร่ำสุรา ที่หนักหน่วง อย่างแสนสาหัส บางคนเอาชีวิตไปทิ้งกับน้ำเมา เพราะภาวะตับแข็ง ก็มีมามากครับ
แต่ถ้าเมื่อไหร่ เราสร้างพฤติกรรมการดื่ม สร้างขอบเขตการดื่ม ด้วยผู้เชี่ยวชาญ เหมือนหลายๆประเทศ ที่เขาจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยควบคุมดูแลผู้ดื่มไม่ให้มากเกินไป จนทำให้เกิดปัญหาสังคมในอนาคต ปัญหาคือของเราไม่มีคนควบคุมเหล่านี้ครับ
เอาหล่ะครับ นั่นคือโทษ ของสุรา ครับ ซึ่งหลายๆ หน่วยงานก็มีการพยายามที่จะควบคุมกันไปครับ
วันนี้เรามาดูในเรื่องของ ข้อดี บางประการกันครับ ว่ามีอะไรบ้าง โดยเฉพาะในเรื่องของชุมชน ที่เป็นรากฐานของเราในการพัฒนาประเทศครับ
ข้อแรกเลยนะครับ การสร้างภูมิปัญญา ที่มาจากประสบการณ์ในการใช้ชีวิต เราหนีไม่พ้นหรอกนะครับ ในเรื่องของน้ำเมากับวิถีชีวิตของชาวบ้าน เราจะเห็นได้ชัดเจนครับ ว่าในชุมชนเวลาหลังเลิกงาน เสร็จจากภารกิจการเกษตร หว่าน ไถ ดำนา กิจกรรมยามเย็นมักจะมี สุรา ปลาปิ้ง เนื้อย่าง มาตบท้ายในบรรยากาศยามเย็น ลมโชย
เลิกงานแล้ว ตะวันคาบแก้ว
ได้สักเป๊ก แก้แอว (ปวดเอว) ก็จะดี
นั่น คือ วิถีชีวิต ชาวบ้านในชุมชนห่างไกล ....แต่ ฉะไหน ในเมืองก็เช่นกัน เพียงแต่เปลี่ยนวิธีการ จากการดื่มเพื่อขับความเหนื่อย มาเป็นการดื่มเพื่อสังสรรค์ เพื่องานสังคม การพูดคุยธุรกิจ ฯลฯ เสียเป็นส่วนใหญ่ครับ
ข้อต่อมาเลยครับ ภูมิปัญญาสร้างนวัตกรรม เพื่อถนอมอาหาร และการสรรสร้างมูลค่า ให้เกิดขึ้นกับวัตถุดิบของตนเอง
เกษตกร ที่มีกำลังทำในสิ่งนี้ คือ บุคคลที่ทรงคุณค่ามากครับ เพราะคนเหล่านี้ สามารถใช้องค์ความรู้ที่มี ผ่านการค้นคว้า การทดลอง จนได้ผลิตภัณฑ์ที่ดี ชิ้นหนึ่งขึ้นมาและนำมาเปลี่ยนเป็นรายได้ให้กับครัวอีกทางหนึ่งครับ
ภูมิปัญญานี้ ควรได้รับการสนับสนุนจากทางราชการครับ แต่ในอดีต กลุ่มคนเหล่านี้ทำได้แต่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ คนของทางราชการครับ จนมายุคหนึ่งที่ต้องการทำให้มันถูกต้องแต่ก็ไม่วาย ไปไม่รอดครับ ปัญหาเหล่านี้ถูกเป็นเครื่องมือให้กับนายทุนใหญ่ ที่พยายามเขมือบและกินรวบทุกๆ ภาคธุรกิจในสังคมนี้ครับ
จะดีนะครับ ถ้าคนเล็งเห็นความสำคัญในจุดนี้ และผลักดันให้เป็นธุรกิจที่ถูกต้องและเป็นรากฐานของการพัฒนาในอนาคตครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น